สวัสดีครับเพื่อนๆ คนเริ่มทำงานทุกคน!
ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยรู้สึกว่าเงินเดือนหมดเร็วเกินไป หรือมีเงินเหลือเก็บน้อยกว่าที่ตั้งใจกันบ้างใช่ไหมครับ? วันนี้ผมจะมาแนะนำ 5 กลยุทธ์การประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือนที่จะช่วยให้คุณมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น โดยไม่ต้องรู้สึกว่ากำลังบีบคั้นตัวเองมากเกินไปครับ
มาดูกันเลยว่ามีกลยุทธ์อะไรบ้าง
1. ทำงบประมาณแบบ 50/30/20

กลยุทธ์แรกที่ผมอยากแนะนำคือการทำงบประมาณแบบ 50/30/20 ครับ วิธีนี้จะช่วยให้คุณจัดสรรเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีเงินเหลือเก็บโดยอัตโนมัติ
วิธีทำ:
- แบ่งเงินเดือนออกเป็น 3 ส่วน
- 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่น ค่าเช่า ค่าอาหาร ค่าเดินทาง
- 30% สำหรับค่าใช้จ่ายที่อยากได้ เช่น ความบันเทิง ช้อปปิ้ง
- 20% สำหรับการออมและการลงทุน
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
ถ้าคุณยังแบ่งเงินตามนี้ไม่ได้ ไม่ต้องกังวลนะครับ ให้เริ่มจากการแบ่งเท่าที่ทำได้ก่อน แล้วค่อยๆ ปรับเพิ่มสัดส่วนการออมและลงทุนเมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้นครับ
2. ทำอาหารกินเองและเตรียมอาหารกลางวันไปทำงาน
ค่าอาหารเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายหลักของคนทำงานเลยทีเดียวครับ การทำอาหารกินเองและเตรียมอาหารกลางวันไปทำงานจะช่วยประหยัดเงินได้มากทีเดียว
วิธีทำ:
- วางแผนเมนูอาหารล่วงหน้าเป็นรายสัปดาห์

- ซื้อวัตถุดิบครั้งละมากๆ เพื่อประหยัดค่าเดินทางและได้ราคาถูกลง
- ทำอาหารครั้งละหลายๆ มื้อ แล้วแบ่งใส่กล่องเก็บไว้ในตู้เย็น
- จัดสรรเวลาในวันหยุดเพื่อเตรียมอาหารสำหรับสัปดาห์ถัดไป
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
ลองชวนเพื่อนร่วมงานมาแชร์อาหารกลางวันด้วยกัน นอกจากจะประหยัดแล้ว ยังได้ลองชิมอาหารหลากหลายด้วยครับ
3. ใช้ระบบขนส่งสาธารณะหรือ Carpool

ค่าเดินทางก็เป็นอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่กินเงินเดือนไปไม่น้อยเลยครับ การเปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะหรือ Carpool จะช่วยประหยัดทั้งค่าน้ำมันและค่าจอดรถได้มากทีเดียว
วิธีทำ:
- ศึกษาเส้นทางรถโดยสารประจำทางหรือรถไฟฟ้าที่ผ่านที่ทำงาน
- ลองปรับเวลาออกจากบ้านให้เร็วขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วน
- หาเพื่อนร่วมงานที่อยู่ละแวกเดียวกันเพื่อ Carpool ไปทำงานด้วยกัน
- ใช้แอพพลิเคชันเรียกรถร่วมกับเพื่อนเพื่อแชร์ค่าใช้จ่าย
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
ลองคำนวณค่าใช้จ่ายในการขับรถไปทำงานเทียบกับการใช้ขนส่งสาธารณะ คุณอาจจะแปลกใจกับผลลัพธ์ที่ได้ครับ
4. ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและหาทางเลือกที่ถูกกว่า
บางครั้งเราอาจมีค่าใช้จ่ายบางอย่างที่เราคิดว่าจำเป็น แต่จริงๆ แล้วอาจไม่จำเป็นหรือมีทางเลือกที่ถูกกว่าก็ได้ครับ
วิธีทำ:
- ตรวจสอบใบแจ้งหนี้และรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างละเอียด

- ยกเลิกสมาชิกหรือบริการที่ไม่ได้ใช้ เช่น สมาชิกฟิตเนสที่ไม่ได้ไปใช้บริการ
- เปรียบเทียบราคาและบริการของผู้ให้บริการต่างๆ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต
- ใช้บริการ Streaming ร่วมกับเพื่อนหรือครอบครัวแทนการสมัครคนเดียว
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
ตั้งกฎให้ตัวเองว่าก่อนซื้อของชิ้นใหม่ ต้องกำจัดของเก่าที่ไม่ได้ใช้ออกไปก่อน 1 ชิ้น จะช่วยลดการซื้อของที่ไม่จำเป็นได้ครับ
5. ใช้เทคโนโลยีช่วยในการประหยัด

ในยุคดิจิทัลแบบนี้ เรามีเครื่องมือมากมายที่จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นครับ
วิธีทำ:
- ใช้แอพบันทึกค่าใช้จ่ายเพื่อติดตามการใช้จ่ายของตัวเอง
- ใช้แอพเปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนซื้อ
- ใช้แอพรวบรวมคูปองส่วนลดและโปรโมชั่น
- ใช้บัตรเครดิตที่ให้เงินคืน (Cashback) สำหรับค่าใช้จ่ายประจำ
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
ตั้งเป้าหมายการประหยัดรายเดือนและใช้แอพติดตามความก้าวหน้า จะช่วยสร้างแรงจูงใจในการประหยัดได้ดีครับ
สุดท้ายนี้ ผมอยากฝากไว้ว่า การประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ได้หมายความว่าคุณต้องอดอยากหรือไม่มีความสุขนะครับ แต่เป็นการใช้จ่ายอย่างฉลาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่าลืมว่าการประหยัดเงินก็เหมือนการออกกำลังกายครับ อาจจะรู้สึกยากในช่วงแรก แต่เมื่อทำไปสักระยะ มันจะกลายเป็นนิสัยและคุณจะรู้สึกดีมากเมื่อเห็นเงินในบัญชีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
หวังว่ากลยุทธ์เหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนนะครับ หากใครมีเทคนิคการประหยัดเพิ่มเติม ก็แชร์กันมาได้เลยนะครับ ผมเชื่อว่าการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันจะช่วยให้เราทุกคนฉลาดขึ้นในการจัดการการเงินครับ
ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการประหยัดค่าใช้จ่ายและมีเงินเหลือเก็บมากขึ้นนะครับ!